อ่านรายละเอียดหัวข้อที่สนใจ สำหรับ Affiliate Marketing
- Affiliate Marketing คืออะไร ?
- รูปแบบการทำ Affiliate marketing มีอะไรบ้าง
- ข้อดีข้อเสียของการทำ Affiliate Marketing
- Affiliate Marketing ทำยังไง ?
- เลือกทำ Affiliate Marketing อย่างไรให้เหมาะกับเรา ?
- ทำ Affiliate Marketing ในไทยกับที่ไหนดี ?
- ขายประกัน แบบ Affiliate Marketing ดียังไง ?
Affiliate Marketing คืออะไร ?
Affiliate Marketing คือหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาด ที่จะอาศัยประโยชน์จากตัวแทนหรือนายหน้า ในการโฆษณา รวมถึงขายสินค้าและบริการให้ โดยมีค่าตอบแทนให้กับตัวแทนเหล่านั้น ในรูปแบบของค่า Commission ตามเปอร์เซ็นต์หรือเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการกำหนดเอาไว้ ซึ่งสมัยนี้คนส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกใช้สื่อออนไลน์ในการทำ affiliate เนื่องจากสะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย ทำให้ Affiliate marketing ในไทยค่อนข้างได้รับความนิยมเลยทีเดียว
ด้วยภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน หลายคนก็คงจะรู้กันดีว่าการมีรายได้ทางเดียวอาจไม่ตอบโจทย์ ดังนั้นการหาช่องทางทำเงินใหม่ ๆ ที่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าแบบไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากมาย อย่างการทำ Affiliate marketing จึงเป็นสิ่งที่หลายคนกำลังให้ความสนใจ ดังนั้นในวันนี้ SCB Protect จะมาแชร์สาระความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ Affiliate marketing ว่าคืออะไร ได้เงินจริงไหม มีขั้นตอนอย่างไร รวมถึงแนะนำด้วยว่ามือใหม่ควรทำ Affiliate ที่ไหนดีถึงจะน่าเชื่อถือ ปลอดภัย คุ้มค่าเหนื่อย เพื่อเป็นอีกหนึ่งข้อมูลให้กับคนที่อยากหารายได้เสริม
รูปแบบการทำ Affiliate marketing มีอะไรบ้าง
การทำ Affiliate marketing ในไทย ค่อนข้างแพร่หลายและได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการ รวมถึงธุรกิจประเภท E-Commerce มากขึ้น ทำให้รูปแบบของการทำ Affiliate มีการปรับเปลี่ยน และพัฒนาให้ตอบโจทย์ตามไปด้วย ซึ่งถ้าแบ่งตามลักษณะการจ่ายผลตอบแทนที่ใช้กันทั่วไป ก็จะมีอยู่หลากหลายแบบ เช่น
1. Pay Per Click Affiliate (PPC)
Pay Per Click (PPC) หรือ Cost Per Click (CPC) คือรูปแบบการทำ Affiliate marketing ซึ่งตัวแทนจะได้รับผลตอบแทนทันที เมื่อลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายทำการคลิกลิงก์ แม้ว่าจะยังไม่เกิดการขายขึ้นก็ตาม โดยอัตราการจ่ายเงินก็จะขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการ เช่น นายเอจะได้รับค่าคอมมิชชันจำนวน 20 บาท ทุกครั้งที่มีคนคลิกลิงก์ ถ้าเดือนนี้มีคนคลิกลิงก์นี้ 120 คน นายเอก็จะได้รับค่าคอมมิชชันทั้งหมด 2,400 บาท
2. Pay Per Sale Affiliate (PPS)
Pay Per Sale (PPS) หรือ Cost Per Sale (CPS) คือการทำ Affiliate marketing ที่จะจ่ายค่าตอบแทนหรือค่าคอมมิชชันให้กับตัวแทน เมื่อเกิดการขายขึ้นแล้วเท่านั้น โดยคิดอัตราการจ่ายเงินเป็นเปอร์เซ็นต์ หรือสัดส่วนรายได้ตามที่ผู้ประกอบการกำหนด เช่น นายบีทำ Affiliate ให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์หนึ่ง โดยมีการกำหนดเอาไว้ว่านายบีจะได้รับเงินตอบแทน 100 บาท ในทุกครั้งที่ลูกค้าซื้อสินค้าผ่านลิงก์ Affiliate ของนายบี
3. Pay Per Lead Affiliate (PPL)
Pay Per Lead (PPL) หรือ Cost Per Lead (CPL) คืออีกหนึ่งรูปแบบการทำ Affiliate marketing ที่ได้รับความนิยม โดยตัวแทนหรือนายหน้าจะได้รับค่าตอบแทนเมื่อมีคนทำการสมัครสมาชิก หรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ของตัวแทนคนนั้น ๆ เช่น นายซีจะได้รับเงินค่าตอบแทนจำนวน 10% เมื่อมียอดผู้สมัครสมาชิกตามจำนวนที่ได้กำหนดเอาไว้ เป็นต้น
ข้อดีข้อเสียของการทำ Affiliate Marketing
ข้อดีของการทำ Affiliate Marketing |
ข้อเสียของการทำ Affiliate Marketing |
1. ทำเงินได้โดยไม่ต้องมีสินค้าของตัวเอง |
1. ไม่มีอะไรการันตีว่าจะสามารถทำรายได้ได้ทุกเดือน |
2. สร้างรายได้จากการทำ Affiliate Marketing โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง |
2. เงื่อนไขในการจ่ายเงินมีหลากหลาย |
3. เป็นวิธีสร้าง Passive Income ที่มีผลตอบแทนคุ้มค่า |
3. ต้องมีความเข้าใจในสินค้าและกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้การทำ Affiliate ประสบความสำเร็จ |
4. เป็นช่องทางทำเงินที่มีความอิสระ ทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามความสะดวก |
4. รายได้ไม่แน่นอน |
5. ไม่มีขีดจำกัดการทำเงิน ทำได้มากเท่าไหร่ก็ได้เท่านั้น |
|
6. ไม่ต้องสต๊อกสินค้า ไม่ต้องจัดส่งสินค้า |
|
7. สามารถทำ Affiliate ผ่านช่องทางออนไลน์รูปแบบไหนก็ได้ |
|
8. ไม่ว่าใครก็สามารถทำ Affiliate marketing ได้ถ้ามีคุณสมบัติตรงตามที่ผู้ประกอบการต้องการ |
|
Affiliate Marketing ทำยังไง ?
- สร้างเว็บไซต์ หรือ Social Media ต่าง ๆ เช่น Facebook, X , Instagram , TikTok เพื่อโฆษณาสินค้าและบริการ
- เริ่มสร้างตัวตนและเปิดการมองเห็นด้วยคอนเทนต์ประเภทต่าง ๆ
- สมัคร Affiliate Program กับผู้ประกอบการที่สนใจ
- ทำการ Generate Affiliate Link ตามขั้นตอนของแพล็ตฟอร์ม เพื่อโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่ได้สร้างเอาไว้
- เมื่อเกิด Action ใดก็ตามซึ่งตรงเงื่อนไข ก็สามารถรับผลตอบแทนหรือคอมมิชชันตามที่ตกลงได้เลย (ระยะเวลาการจ่ายเงินการแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการ)
เลือกทำ Affiliate Marketing อย่างไรให้เหมาะกับเรา ?
1. เลือกจากประเภทของสินค้าหรือบริการ
เนื่องจากสินค้าที่สามารถนำมาทำ Affiliate Marketing ในไทยได้มีอยู่หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ในบ้าน อาหาร หรือแม้แต่ประกันออนไลน์ เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถหาสินค้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง หรือเป็นสิ่งที่ตัวเองสนใจได้ ก็จะช่วยให้เราเข้าใจในสินค้า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ช่วยให้การทำ Affiliate ประสบความสำเร็จนั่นเอง
2. เลือกจากผลตอบแทนที่คุ้มค่า
คนส่วนใหญ่ที่เริ่มหันมาทำ Affiliate Marketing ต่างก็ต้องการสร้างรายได้เสริม และเพิ่มช่องทางการทำเงินให้มากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทุกคนควรพิจารณาก่อนตัดสินใจว่าควรทำ Affiliate ที่ไหนดี ก็คือรายละเอียดผลตอบแทนที่จะได้รับ นอกจากนั้นก็ยังต้องตรวจสอบผลตอบแทนของสินค้าแต่ละประเภทด้วย เพราะสินค้าต่างกันก็มักจะมีค่าคอมมิชชันต่างกันออกไป ยิ่งสินค้ามีราคาแพง ขายยาก ค่าคอมมิชชันก็ยิ่งสูง ในขณะที่ถ้าเป็นสินค้าราคาสบายกระเป๋า ขายง่าย ก็อาจจะมีเปอร์เซ็นต์จ่ายเงินไม่ได้สูงมากนัก ขึ้นอยู่กับการวางแผนและความต้องการของแต่ละคนเลย
3. เลือกจากผู้ประกอบการ
องค์ประกอบสำคัญของการทำ Affiliate นอกจากจะขึ้นอยู่กับตัวแทน หรือช่องทางการตลาดที่เลือกใช้แล้ว ผู้ประกอบการเองก็ถือเป็นส่วนสำคัญ เพราะฉะนั้นการเลือกทำ Affiliate Marketing ให้เหมาะสมกับตัวเอง จึงต้องพิจารณากันในส่วนนี้ด้วย เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละเจ้าก็จะมีฐานลูกค้า ความน่าเชื่อถือ เงื่อนไข รวมถึงความสามารถในการจ่ายเงินต่างกันด้วย
ทำ Affiliate Marketing ในไทยกับที่ไหนดี ?
ในปัจจุบันผู้ประกอบการในไทยหลายเจ้า เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับ Affiliate Marketing กันมากขึ้น ดังนั้นมันจึงเป็นโอกาสที่ดี และทำให้คนทั่วไปที่อยากจะสร้างรายได้เสริมมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น โดย Affiliate Marketing ในไทยที่พบเห็นได้บ่อยก็จะมีอยู่หลายแพล็ตฟอร์ม เช่น
● Shopee Affiliate : ได้รับค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชัน มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย เป็นแพล็ตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ที่ได้รับความนิยม มีแคมเปญและโปรโมชันส่งเสริมการขาย
● Lazada Affiliate : ค่าคอมมิชชันสูงสุด 80% จากราคาสินค้า มีสินค้าหลากหลาย พร้อมแคมเปญและโปรโมชันส่งเสริมการขาย
● TikTok Affiliate : สามารถสร้างรายได้ผ่านร้านค้าที่มี TikTok Shop โดยบัญชีจะต้องมีผู้ติดตามหรือคุณสมบัติตามที่กำหนด เป็นแพล็ตฟอร์มที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีคนใช้จำนวนมาก
● Amazon Affiliate : ได้รับค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชัน ตามสัดส่วนของสินค้าแต่ละประเภท ทั้งในรูปแบบ on-site และ off-site มีผู้ใช้งานหลากหลายทั่วโลก
● Agoda Affiliate : เป็นแพล็ตฟอร์มจองโรงแรม ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ที่ได้รับความนิยม สามารถรับค่าตอบแทนทันทีเมื่อมีลูกค้าเข้าพักและเช็คเอาต์เรียบร้อยแล้ว โดยมีอัตราค่าคอมมิชชันแบบก้าวหน้าสูงสุดถึง 7%
● SCB Protect Affiliate : เป็นช่องทางทำ Affiliate marketing สินค้าประกัน มีทั้งประกันภัย และประกันชีวิต โดยมีค่าคอมมิชชันสูงถึง 25% ของเบี้ยประกันภัย สมัครง่ายผ่านเว็บไซต์ สร้างรายได้ง่ายแค่กดแชร์ลิงก์
ขายประกัน แบบ Affiliate Marketing ดียังไง ?
ข้อดีของการขายประกันออนไลน์ด้วย Affiliate Marketing กับ SCB Protect มีข้อดีที่น่าสนใจอยู่หลายข้อ ดังนี้
- มีบริษัทประกันชั้นนำ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือให้เลือกหลากหลาย
- มีผลตอบแทนในการทำ Affiliate Marketing สูงสุดถึง 25%
- เริ่มทำได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้
- ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องมีสินค้าของตัวเอง
- ไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียงหรือมี follower สูงก็สามารถทำได้
- สร้างรายได้ได้ง่าย ๆ เพียงแชร์ลิงก์ และดำเนินการตามขั้นตอนของบริษัท
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับสาระความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการทำ Affiliate ซึ่งช่วยให้ทุกคนมองเห็นช่องทางการทำเงินกันได้มากขึ้น
และสำหรับใครที่กำลังมองหาแพล็ตฟอร์ม Affiliate Marketing ที่มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และมีค่าตอบแทนสูง ก็สามารถสมัคร SCB Protect Affiliate Marketing กันได้เลยง่าย ๆ หรือศึกษารายละเอียดประกันภัยและประกันชีวิตทั้งหมดได้ที่เว็บไซส์ SCB Protect พร้อมสร้างรายได้ทันทีแบบไม่ต้องลงทุน